รีวิว BLUE GIANT (2024) เป่าฝันให้เต็มฟ้า

รีวิว BLUE GIANT (2024) เป่าฝันให้เต็มฟ้า

BLUE GIANT เป่าฝันให้เต็มฟ้า อนิเมชั่นสไตล์มิวสิคคัลจากผลงานของอาจารย์ Toshiyuki Kubooka ผู้กำกับจากภาพยนตร์อนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Your Name (2016) ที่กลับมาวาดลวดลายกันอีกครั้งในเรื่องนี้ที่มีต้นฉบับมาจากมังงะสุดฮิตชื่อดัง BLUE GIANT โดยเล่าเรื่องราวของ เด็กหนุ่มที่หลงใหลในการเป่าแซกโซโฟน ฝันเป็นนักดนตรีแจ๊สที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก จนได้ตั้งวงดนตรีกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อสานฝันให้เป็นจริง

ได มิยาโมโตะ เด็กหนุ่มวัย 18 ปี จากชนบทที่ย้ายมาเรียนต่อที่โตเกียว ที่กำลังหลงใหลในการเป่าแซกโซโฟนมาตั้งแต่เด็ก และมีความฝันในการเป็นนักดนตรีแจ๊สที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก และฝึกฝนอย่างหนักหน่วงจนกระทั่งวันหนึ่งได้พบกับ ยูกิโนริ ซาวาเบะ นักเปียโนอัจฉริยะ และ ชุนจิ ทามาดะ มือกลองที่เพิ่งจะค้นพบตัวเองมาได้ไม่นาน ทำให้ทั้ง 3 คนตัดสินใจร่วมตั้งวงดนตรีเพื่อสานฝันให้เป็นจริง โดยเริ่มต้นจากการเล่นดนตรีตามร้านกาแฟเล็กๆ งานเลี้ยงต่างๆ ด้วยความมุ่งมั่นและความทุ่มเท จนทั้งวงค่อยๆ พัฒนาฝีมือและสร้างชื่อเสียงได้อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีโอกาสได้ขึ้นแสดงบนเวทีแจ๊สที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของกรุงโตเกียวได้สำเร็จ

BLUE GIANT เป่าฝันให้เต็มฟ้า เรียกได้ว่านี่คืออีกหนึ่งอนิเมชั่นที่สร้างแรงบันดาลใจได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว โดยที่เนื้อหาของเรื่องไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เพราะเล่าเรื่องราวความฝันของนักดนตรีรุ่นเยาว์ที่เรียบง่าย แต่กลับทรงพลังมาก การถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับความฝันของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง จากความพยายามและมิตรภาพของเพื่อนที่ประทับใจจริงๆ ด้านงานภาพก็อลังการตามแบบฉบับของอาจารย์ท่านนี้ที่เคยฝากผลงานเรื่องดังอย่าง Your Name (2016) กันมาแล้ว

จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวละครที่ค่อนข้างโดดเด่นเพราะ ได มิยาโมโตะ เป็นตัวละครที่ให้เราเห็นถึงความมุ่งมั่น ความพยายามอย่างไม่ย่อท้อจริงๆ หรือจะเป็นเพื่อนๆ อย่าง ยูกิโนริ ซาวาเบะ ก็เป็นอีกตัวละครที่ฉลาดและมีพรสวรรค์ บวกกับ ชุนจิ ทามาดะ เพื่อนซี๊อีกคนที่ช่วยมาเติมเต็มความเป็นเพื่อนกลุ่มนี้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ต้องบอกว่างานดนตรีเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้แอนิเมชั่นเรื่องนี้ประสบความสำเร็จทีเดียว เพราะจากทั้งความไพเราะ ฟังแล้วรู้สึกว่าทรงพลังจริงๆ จากบทบรรเลงเพลงที่ถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างลึกซึ้ง ฉากการแสดงดนตรีต่างๆ ภายในเรื่องที่เราจะได้เห็นหลากหลายบริบทเลยทีเดียว ทั้งการฝึกซ้อม ไปจนถึงวันประกวดแข่งขันก็ทั้งกดดันและช่วยลุ้นเชียร์ไปด้วยกัน

สำหรับ BLUE GIANT อาจจะไม่ได้เหมาะกับผู้ชมทุกกลุ่ม เพราะถ้าใครที่ไม่ชอบแนวมิลสิกคัล หรือเรื่องราวที่ถ่ายทอดผ่านเสียงดนตรีเป็นหลัก ก็อาจจะแอนตี้หรือดูไม่ถนัดได้เลย ยิ่งเรื่องนี้จะเน้นไปที่เฉพาะดนตรีแจ๊สเป็นหลักด้วย หากใครไม่ได้ชื่นชอบแนวนี้อาจจะไม่อินไปเลย แต่ถ้าหากใครชอบแนวดนตรีแจ๊สอยู่แล้วบอกเลยว่าต้องรับชมจริงๆ เพราะมันดีต่อใจมาก คุณจะเข้าใจและเข้าถึงอารมณ์เนื้อหาที่สื่อมาได้แบบลึกซึ้งจริงๆ เพราะเก็บรายละเอียดต่างๆ ภายในเรื่องได้ละเอียดที่สุด

BLUE GIANT ก็น่าจะเป็นแอนิเมชั่นดีๆ อีกหนึ่งเรื่องที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คน น่าจะเหมาะกับกลุ่มผู้รับชมที่ชื่นชอบดนตรีแจ๊สหรือต้องการหาภาพยนตร์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเองน่าจะดีมาก ด้านงานภาพก็สวยงามตราตรึงใจ บทและเนื้อเรื่องก็มีความดราม่า เข้มข้น และกินใจดีจริงๆ จนทำให้ได้รับคำวิจารณ์และได้รับรางวัลมากมายอย่างรางวัล ภาพยนตร์อนิเมชั่นยอดเยี่ยม จากงาน Tokyo Anime Award Festival 2024 มาแล้วอีกด้วย